ตอนนี้ก็ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สำหรับหลายๆ ก็ถือความเป็นสิริมงคล อาจจะย้ายบ้านกลับต่างจังหวัด หรือกำลังจะได้รถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ คันเดิมอาจจะให้คนที่บ้านใช้บ้าง มีเจ้าของใหม่สนใจบ้าง ทำให้หลายๆ คน ที่ต้องการใช้บริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง และค่าบริการเท่าไหร่ เดี๋ยวเราจะไขคำตอบกัน
1. ทำไมต้องมีการบริการ ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ?
ถ้าในตอนนี้คุณมีมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง วันหนึ่งหากได้คันใหม่ ไม่ใช้คันเก่าแล้ว ย้ายที่อยู่ไปยังต่างจังหวัด หากจะต้องขี่ไปต่างจังหวัด ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดูน่าลำบากใจไม่น้อยเลย
เพราะด้วยระยะทาง วิสัยทัศน์ในการขับขี่ ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง แม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์บางรุ่น ที่มีขนาด CC เครื่องยนต์และแรงม้าค่อนข้างจำกัด จึงอาจจะไม่เหมาะสมในการเดินทางข้ามจังหวัด ดังนั้นการบริการ ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ จึงเป็นทางเลือกที่ดี
2. วิธีการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์มีอะไรบ้าง ?
ขนส่งด้วยตนเอง วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีรถกระบะ หรือรถบรรทุกเป็นของตัวเอง ไม่ก็สามารถวานคนใกล้ชิด คนอื่นได้ ที่สามารถบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์ไปยังจุดหมายปลายทาง ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าน้ำ หรือแก๊ส เป็นจำนวนหนึ่ง แต่รับรองว่ารถมอเตอร์ไซค์จะถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัยอย่างไม่ต้องกังวล แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้ในการจ้างรถขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ หรือรถรับขนรถมอเตอร์ไซค์
จ้างบริการขนส่ง ตอบโจทย์คนที่ไม่มีเวลาที่จะขนส่งด้วยเอง แต่มีเงินเป็นจำนวนหนึ่งในการจ้างบริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ แต่วิธีนี้มีข้อด้อย คือ ค่าใช้จ่ายในการจ้างรถขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ค่อนข้างสูง ด้วยน้ำหนักของพัสดุที่มีการคำนวณแล้วหนักมาก
เพราะ รถรับจ้างนั้นจะต้องบริการให้เราเพียงรายเดียวในช่วงขาไป ส่วนขากลับจะต้องตีรถกลับด้วยรถเปล่า จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง และบางคนนั้นอาจจะมีความกังวลว่ารถรับจ้างนั้นจะดูแลรถให้ไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัยหรือไม่
ใช้บริการของรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยนอกจากจะมีบริการขนส่งพัสดุทั่วไปแล้ว ยังมีบริการขนส่งมอเตอร์ไซต์ไปยังต่างจังหวัด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
ซึ่งด้วยมีราคาที่ไม่สูงมาก จะอยู่ที่ 400 – 500 บาท ทั้งนี้ ค่าบริการนั้นจะมีการคิดตามขนาดเครื่องยนต์ CC และขบวนรถไฟที่ให้บริการ หากใครที่สนใจจะใช้บริการ จะต้องนำเอารถมอเตอร์ไซค์และเอกสารต่างๆ ไปดำเนินการที่สถานีด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าค่าบริการขนส่งทางรถไฟนั้น จะมีราคาที่ไม่แพง แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1 คน เพื่อติดตามขบวนรถ หากขบวนนั้นที่ใช้บริการนั้นเต็ม อาจจะต้องใช้บริการขบวนที่ยังว่างอยู่ แล้วจึงให้ผู้รับปลายทางไปติดต่อรับพัสดุที่สถานี หรือผู้ติดตามสามารถไปยังปลายทางได้
ใช้บริการของไปรษณีย์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไม่ได้มีเพียงขนส่งพัสดุทั่วไป ยังรับขนส่งพัสดุอย่างรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,200 – 5,820 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาด CC เครื่องยนต์ และยังไม่รวมค่าธรรมบริการ ค่าบริการแพ็คห่อหุ้ม
ซึ่งสามารถมาที่ไปรษณีย์ที่มีบริการขนส่งพัสดุขนาดใหญ่ หรือบริการ Logipost (มีบางสาขา) โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทำการเช็คสภาพรถ แต่ทางที่ดีให้มีการถอดกระจกมองข้าง เพื่อประหยัดพื้นที่ในการขนส่ง ส่วนระยะเวลาการขนส่ง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับระยะทาง) และผู้รับปลายทางจะต้องมารับรถมอเตอร์ไซค์ด้วยตัวเอง
3. ขั้นตอนการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ต้องทำอย่างไร?
ขั้นตอนที่ 1 (เตรียมเอกสาร)
เอกสารที่จะต้องใช้ในการดำเนินการใช้บริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดำเนินการ จำนวน 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชุด
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถยนต์ จำนวน 2 ชุด (หากผู้ดำเนินการมีชื่อไม่ตรงกับชื่อในเล่มทะเบียนรถ)
- เอกสารการซื้อขายรถ (สำหรับการขนส่งด้วยรถไฟ)
ขั้นตอนที่ 2 (กรอกเอกสาร) หากนำส่งทางไปรษณีย์
เมื่อไปถึงที่ทำการไปรษณีย์ ให้เราไปแจ้งความประสงค์ของการขนส่งมอเตอร์ไซค์ ต่อพนักงาน จากนั้นจะได้รับ ‘ใบรับฝากบริการ’ เพื่อกรอกข้อมูลที่สำคัญ เรียบร้อย ครบถ้วน
ขั้นตอนที่ 3 (ซื้อบัตรโดยสาร) หากนำส่งทางรถไฟ
เมื่อไปถึงที่สถานีรถไฟ มุ่งไปยังช่องจำหน่ายตั๋ว แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีสัมภาระเป็นมอเตอร์ไซค์ แล้วทำการซื้อตั๋วสำหรับรถจักรยานยนต์ จากนั้นทำการยื่นเอกสารตามรายการข้างต้นให้กับเจ้าหน้าที่
ขั้นตอนที่ 4 (การตรวจสภาพ)
หลังจากที่ทำการแจ้งความประสงค์และยื่นเอกสารครบเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการเช็คสภาพรถว่ามีรอยขีดข่วน แตกหักจุดใดจุดหนึ่งหรือไม่ ระบบไฟต่างๆ ยังใช้งานได้ตามปกติหรือเปล่า จากนั้น รถมอเตอร์ไซค์ของคุณก็จะมีการปลดกระจกข้าง น้ำมันเครื่องจะถูกถ่าย เมื่อทำการเช็คสภาพเรียบร้อยแล้ว เพื่อประหยัดพื้นที่และป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นในระหว่างขนส่ง จนกว่าจะมั่นใจว่าถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย
เมื่อทุกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการห่อหุ้ม โดยเจ้าหน้าที่จะให้เลือกว่าต้องการห่อหุ้มด้วยพลาสติกกันกระแทกหรือไม่ หากต้องการไม่ให้รถเกิดรอยขีดข่วน อยู่ในสภาพสมบูรณ์ จะมีค่าบริการอยู่ที่ 160 บาท
ขั้นตอนที่ 5 (ชำระค่าบริการ)
การชำระค่าขนส่งมอเตอร์ไซค์ หากขนส่งทางไปรษณีย์ จะคิดค่าบริการตามระยะจากต้นทาง – ปลายทาง ขนาดเครื่องยนต์ CC และค่าห่อหุ้มพัสดุมอเตอร์ไซค์ (หากต้องการ)
ในส่วนของการขนส่งด้วยทางรถไฟ ผู้ดำเนินการจะต้องชำระเงินค่าตั๋วรถไฟสำหรับมอเตอร์ไซค์ ค่าระวางพัสดุตามประเภทขบวนที่ใช้ในการขนส่ง ระยะทางจากต้นทาง – ปลายทาง และขนาดเครื่องยนต์ด้วยเช่นเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 6 (การรับพัสดุ)
ในส่วนของการขนส่งทางไปรษณีย์ จะมี Tracking Number ให้ผู้รับปลายทางสามารถเช็คสถานะพัสดุได้ว่าถึงตรงไหนแล้ว โดยสามารถเช็คได้ที่ track.thailandpost.co.th ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 5 – 7 วันในการขนส่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทการขนส่งและระยะทาง
หากเป็นการขนส่งด้วยรถไฟ เจ้าของรถ จะต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1 คน เพื่อเดินทางไปพร้อมกับขบวนรถนั้นๆ ในกรณีที่ขบวนเต็ม อาจจะต้องไปอีกขบวนก็ได้ ซึ่งเจ้าของหรือผู้ติดตามจะต้องเดินทางล่วงหน้าเพื่อรอรับรถที่สถานีปลายทาง
4. บริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ราคา เท่าไหร่?
ขนส่งทางไปรษณีย์ ในบริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ราคา จะเริ่มต้นที่ 1,200 – 5,000 บาท(ขึ้นอยู่กับขนาด CC), ค่าห่อหุ้มพัสดุ 160 บาท และจะมีอัตราค่าบริการเพิ่มเติมตามระยะทางจากต้นทาง – ปลายทาง
ขนส่งทางรถไฟ ในบริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ราคา จะมีค่าบริการระวางในการขนส่งตามขนาดน้ำหนักของพัสดุ ค่าธรรมเนียมตามขนาดของ CC เครื่องยนต์ และค่าขนขึ้น – ลง
สำหรับใครที่กำลังมองหารถรับขนรถมอเตอร์ไซค์ ที่บริการด้วยหัวใจ ถึงปลายทางอย่างปลอดภัย สามารถติดต่อได้ที่ K.A. Transport เบอร์โทร 081-654-9629 , ไอดีไลน์ ka000001, Website katransport.net
บทความแนะนำ
เช็คลิสต์ ส่งของชิ้นใหญ่ ส่งของหนัก ควรเลือกบริการขนส่งแบบไหน? ให้ได้ราคาคุ้มที่สุด! บทความนี้มีคำตอบ
